ระหว่างวันที่ 18–19 กันยายน 2568 นายภูนริช เดชแก้ว นิสิตหลักสูตรเศรษฐศาสตรบัณฑิต ตัวแทนจากคณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยทักษิณ เข้าร่วมงานสัมมนาวิชาการประจำปี “BOT Symposium 2025” ภายใต้หัวข้อ “เท่าทันภัยการเงิน: Towards Safer and More Inclusive Digital Finance” จัดโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านเศรษฐกิจและการเงินยุคดิจิทัล เพื่อส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับความปลอดภัยและการเข้าถึงระบบการเงินดิจิทัลของประชาชนไทยให้ดียิ่งขึ้น

ในการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ นิสิตได้มีโอกาสพบปะและพูดคุยกับผู้แทนจากฝ่ายงานต่าง ๆ ของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับบทบาท ภารกิจ และหน้าที่สำคัญของธนาคารกลางในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงนโยบายทางเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับบริบทโลกในปัจจุบัน อีกทั้งยังได้เรียนรู้กลไกการทำงานของแต่ละฝ่ายภายในองค์กรที่ร่วมกันขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจไทยให้มีความมั่นคงและยั่งยืน

นอกจากนี้ นิสิตยังได้เยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์แบงก์ชาติ ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อศึกษาความเป็นมาของธนาคารกลางของประเทศ พร้อมทั้งเรียนรู้พัฒนาการของ “เงิน” ในแต่ละยุคสมัย ตั้งแต่สื่อกลางการแลกเปลี่ยนในอดีตจนถึงระบบการเงินดิจิทัลในปัจจุบัน ซึ่งจัดแสดงไว้ด้วยสื่อและวัตถุจริงที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจ

   

ในวันถัดมา นิสิตได้เข้าร่วมการสัมมนาวิชาการภายใต้หัวข้อ “เท่าทันภัยการเงิน: Towards Safer and More Inclusive Digital Finance” ซึ่งเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับการรับมือกับภัยทางการเงินอย่างเป็นระบบ ผ่านการบรรยายเชิงวิชาการและการเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและต่างประเทศ โดยได้รับเกียรติจาก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มาเป็นผู้ดำเนินรายการ พร้อมด้วยผู้แทนจากธนาคารกลางของ มาเลเซีย ฮ่องกง สิงคโปร์ และไทย ที่ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินแก่ประชาชน ตลอดจนแนวทางการพัฒนาระบบการเงินที่ปลอดภัยและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเจาะลึก 3 ประเด็นเศรษฐกิจสำคัญผ่าน Research Talks ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากสงครามการค้า เครื่องมือการหารายได้ของภาครัฐ และ Open Data กับการแก้ปัญหาคอร์รัปชัน ซึ่งช่วยให้เราได้เห็นมุมมองที่หลากหลาย เกี่ยวกับมาตรการที่ประสบความสำเร็จได้ผลดี มาตรการที่ยังมีข้อจำกัด รวมถึงบทเรียนที่แต่ละประเทศสามารถนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของตนเองได้

 

       

การเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันทรงคุณค่าในการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ การเงิน และนโยบายสาธารณะให้แก่นิสิต อีกทั้งยังเป็นการเปิดมุมมองใหม่ในการเชื่อมโยงองค์ความรู้เชิงทฤษฎีกับสถานการณ์จริงทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาศักยภาพและต่อยอดสู่การเป็นนักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่ที่มีคุณภาพและมีวิสัยทัศน์ในอนาคต

ในโอกาสนี้ คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยทักษิณ ขอขอบพระคุณ ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ให้เกียรติและเปิดโอกาสให้นิสิตได้เข้าร่วมกิจกรรมอันทรงคุณค่านี้ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการต่อยอดองค์ความรู้ทางเศรษฐศาสตร์และการเงิน เพื่อร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป